2018.05.25 Friday
16:54 แอน Dr.Ann:cherry_blossom: invited Buja Dhammapujako to the group.
16:58 Adisorn joined the group.
17:07 แอน Dr.Ann:cherry_blossom: อีก 5 นาทีจะ video call สะดวกกันมั๊ยคะ
17:11 wasit.limprasert สะดวกคุยเสียงครับท่าน
17:11 wasit.limprasert Group voice call started.
17:47 wasit.limprasert ข้อเสนอนี้ใกล้เคียงกับเราครับ
Our Solution
eXtreme Learning
Our tagline:
Throw out the teacher. Bring in the team.
Our pitch:
Combine pair-based- / problem-based- / fail-based- / sprint-based-learning with agile scrum. Mix in a ton psycho social support, mindfulness training, yoga, mediation, talking circles (restorative justice) and badda bing! Witnessed are dramatic increases in 31 personality traits that correlate with leadership, success and life happiness.
17:48 wasit.limprasert https://solve.mit.edu/challenges/teachers-and-educators/solutions/3328
17:48 Buja Dhammapujako มื่อกี้ที่เราคุยกันสามคน หมอแอน, อ.มด และ หลวงพี่
เห็นตรงกันว่า
ถ้าเราจะสามารถมี significant contribution ให้กับโลกได้
ก็ควรจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในวัฒนธรรมของเราที่ตะวันตกเค้าไม่มีและเป็นที่ต้องการของเค้าด้วย
ซึ่งก็คือองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาชีวิต และ การมีชีวิตทุกขณะได้อย่างมีความสุข ที่มีแก่นแกนจากพระพุทธศาสนา
บวกกับเงื่อนไขทางเทคนิคที่ อ.มด จะต้องทำเรื่อง Natural Language Processing กับ data set ภาษาไทย
เรื่องการวิเคราะห์ social interaction ของคนไทยกับความเห็นทางการเมือง …
17:48 Buja Dhammapujako องค์ความรู้ตรงนี้น่าจะสามารถนำมาวิเคราะห์บทเทศนาของครูบาอาจารย์ไทย ที่มีอยู่มหาศาล ทั้งที่ท่านเทศน์ทางเดียว หรือ ที่ท่านตอบป้ญหาชีวิตให้กับผู้คนต่างๆ
วิเคราะห์เพื่อจะสามารถเชื่อมโยงกับแก่นกลางคือคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก ซึ่งจะเป็นแกนกลางที่จะสามารถเชื่อมโยงกับภาษาอื่นๆ ได้ต่อไปในอนาคต
ซึ่งเป็นโครงการที่หลวงพี่กำลังดำเนินการอยู่
17:50 Buja Dhammapujako สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลพระธัมมเจดีย์
17:51 Buja Dhammapujako
การเชื่อมโยง เทศนาครูบาอาจารย์และองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาชีวิต เข้ากับแกนกลางคือพระไตรปิฎก
17:53 Buja Dhammapujako
application ของเราก็จะเป็น chat bot ที่ช่วยตอบปัญหาได้ระดับหนึ่ง จากฐานข้อมูลเทศนาครูบาอาจารย์ และ เชื่อมโยงกับคำสอนพระพุทธเจ้า และอาจจะช่วย กรอง คนที่มีปัญหาชีวิตในแต่ละระดับ แต่ละแง่มุม จาก buddhist psychology perspective
17:56 Buja Dhammapujako เช่น…
อุปกิเลส 16 ได้แก่
๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว
๒. พยาบาท คือความคิดร้าย มุ่งจะทำร้ายเขา ใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขาก็มี บางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มีซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
๓. โกธะ คือความโกรธ มีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
๔. อุปนาหะ คือการผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกันคิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคยทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ
๕. มักขะ คือการลบหลู่คุณท่าน ปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น
๖. ปลาสะ คือการตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้
๗. อิสสา คือความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้ เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี
๘. มัจฉริยะ คือความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร
๙. มายา คือเจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดงบทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อยแต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออกด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น
๑๐. สาเถยยะ คือการโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข
๑๑. ถัมภะ คือความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง
๑๒. สารัมภะ คือการแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้
๑๓. มานะ คือความถือตัว ทะนงตน
๑๔. อติมานะ คือการดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น
๑๕. มทะ คือความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปแล้วทำอะไรเกินเหตุ
๑๖. ปมาทะ คือความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา
17:56 wasit.limprasert changed the group’s profile picture.
2018.05.28 Monday
13:28 Buja Dhammapujako ไม่ทราบท่านอื่น มีความเห็นอย่างไรกันบ้าง
13:44 แอน Dr.Ann:cherry_blossom: เห็นด้วยค้า เราจะเริ่มต้นกันยังไงค้า